Skip to main content
sharethis

เว็บไซต์ส่วนราชการในไทยอย่างน้อย 3 แห่ง ถูกแฮกเกอร์กลุ่ม “Fallaga Team” จากตูนิเซีย แฮกหน้าแรก โดยระบุว่า "เพื่อมุสลิมของพวกเราในพม่า" - ขณะที่ก่อนหน้านี้กลุ่มแฮกเกอร์ดังกล่าวเคยถล่มเว็บไซต์อิสราเอล และเคยร่วมกับ “ญิฮาดไซเบอร์” กลุ่มอื่นๆ ปฏิบัติการ #OpFrance ถล่มเว็บในฝรั่งเศส หลังเหตุบุกยิงสำนักงาน นิตยสารชาร์ลี เอบโด

24 ส.ค. 2558 - เมื่อคืนวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมามีเว็บไซต์ของส่วนราชการ และหน่วยงาน อย่างน้อย 3 แห่งถูกแฮก โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่าฟาลากาทีม (Fallaga Team) ระบุว่ามาจากตูนิเซีย ได้แก่ เว็บไซต์จังหวัดลำพูน http://www.lamphun.go.th/ เว็บไซต์สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม http://www.msup.msu.ac.th/about_us.htm และเว็บไซต์ของโรงพยาบาลลำลูกกา จ.ปทุมธานี http://llkhospital.com/news/index.php

ล่าสุดในเวลา 07.30 น. ผู้สือข่าวได้รับแจ้งว่า มีเว็บไซต์ส่วนราชการอีก 3 แห่ง ได้แก่ จังหวัดตาก http://www.tak.go.th/ จังหวัดสิงห์บุรี http://www.singburi.go.th/ และจังหวัดสระแก้ว http://www.sakaeo.go.th/ ไม่สามารถเข้าถึงได้ อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถยืนยันได้ว่า เว็บไซต์ทั้ง 3 แห่งนี้ ถูกแฮกหรือโจมตีโดย Falaga Team ด้วยหรือไม่

เว็บไซต์จังหวัดลำพูน เมื่อคืนวันที่ 23 ส.ค. หลังจากถูกแฮก

โดยเว็บไซต์ของส่วนราชการ จ.ลำพูน ซึ่งเป็นเว็บที่มีการแฮกและแสดงข้อความโดยระบุรายละเอียดมากที่สุด เมื่อเทียบกับบรรดาเว็บอื่นๆ ที่ถูกแฮกนั้น ในเว็บมีการเขียนข้อความว่า "ถูกแฮกโดย FALLAG GASSRINI & DR LAMOUCHI กลุ่มต่อต้านไซเบอร์ชาวตูนิเซีย Fallaga Team!..." ("HACKED BY FALLAG GASSRINI & DR LAMOUCHI TUNISIAN CYBER RESISTANCE FALLAGA TEAM!...")

ด้านล่างเขียนข้อความว่า "สวัสดีชาวโลก! เว็บไซต์นี้ถูกแฮกโดย FALLAG GASSRINI และ DR LAMOUCHI นักรบไซเบอร์ตูนิเซีย Al Fallaga team ... แอดมินไม่ต้องกังวลนี่เป็นเพียงข้อความเท่านั้น และคุณสามารถรีเซ็ตเว็บไซต์ได้ ... ข้อความของเราไม่ได้ฝากไปถึงแอดมินเท่านั้นแต่ฝากไปยังโลก คุณดูได้จากภาพแบกกราวด์แล้วคุณจะเข้าใจ โปรดคลิกที่ปุ่มด้านล่างเพื่ออ่านข้อความเต็ม" (Hello World ! This website has been hacked by FALLAG GASSRINI and DR LAMOUCHI Tunisian cyber resistance Alfallaga team ... so admin don't worry this is just a message and you can reset your website ... so our message not just for the admin it's for all the world you can see the background picture and you will understand and click at the buttom blow to read our full message.)

ทั้งนี้ภาพแบกกราวด์ที่แฺฮกเกอร์กลุ่มนี้ใช้ หลายภาพเป็นภาพผู้เสียชีวิต รวมทั้งภาพอวัยวะของผู้เสียชีวิต รวมทั้งภาพพระทิเบตกำลังทำพิธีศพให้ผู้เสียชีวิตในเหตุแผ่นดินไหวทิเบตเมื่อเดือนเมษายนปี 2010 แต่ภาพนี้มักจะถูกแชร์โดยระบุว่าเป็นภาพพระสงฆ์ฆ่าชาวมุสลิมในพม่า

ล่าสุดในเวลา 04.00 น. เว็บไซต์ของจังหวัดลำพูนไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว มีข้อความว่า "This webpage is not available"

เว็บไซต์ของสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หลังจากถูกแฮก

ส่วนเว็บไซต์สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถูกแฮกและระบุข้อความว่า "ถูกแฮกโดย Fallaga Team จากตูนิเซีย เพื่อมุสลิมของพวกเราในพม่า" ("Hacked by Tunisian Fallaga Team Just For our Muslims in Burma) อย่างไรก็ตามเว็บไซต์ด้านในยังเข้าถึงได้

เว็บไซต์ของโรงพยาบาลลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังจากถูกแฮก

ส่วนเว็บไซต์ของโรงพยาบาลลำลูกกา จ.ปทุมธานี http://llkhospital.com/news/index.php ถููกแฮกและเขียนข้อความว่า ถูกแฮกโดย Fallaga Team ("hacked by Fallaga Team") แต่ตั้งแต่เวลา 03.00 น. ของวันที่ 24 ส.ค. หากเข้าจากที่อยู่ http://llkhospital.com/ ยังคงสามารถเข้าหน้าอื่นได้

 

Fallaga Team “ญิฮาดอิเล็กทรอนิกส์” โปรอิสลาม ต้านรัฐฆราวาส แต่ไม่ใช่ ISIS

สำหรับกลุ่ม Fallaga Team ดังกล่าว ตั้งชื่อตามกลุ่มติดอาวุธซึ่งต่อสู้กับเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสผู้ยึดครองตูนิเซีย

ข้อมูลจากเว็บไซต์ซึ่งมอนิเตอร์กลุ่มญิฮาดไซเบอร์ “THE MEMRI CYBER & JIHAD LAB” ระบุว่ากลุ่ม Fallaga Team เป็นแฮกเกอร์โปรอิสลาม ที่ต่อต้านแนวทางรัฐฆราวาส และกลุ่มที่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า แต่กลุ่มนี้ยืนยันว่ากลุ่มไม่เกี่ยวข้องกับ ISIS

โดยข้อมูลในปี 2556 กลุ่ม Fallaga Team เคยแฮกเว็บไซต์สนับสนุนสิทธิ LGBT ในเดนมาร์ก Sabaah.dk เช่นกัน ทั้งนี้ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเหตุใดจึงมีปฏิบัติไซเบอร์ดังกล่าว

 

เคยร่วม #OpFrance ถล่มเว็บไซต์ฝรั่งเศส หลังเหตุบุกยิงสำนักงาน Charlie Hebdo

โดยหลังเหตุการณ์ที่ สำนักงานของนิตยสารชาร์ลี เอบโด (Charlie Hebdo) ในฝรั่งเศส ถูกมือปืนบุกถล่มสำนักพิมพ์เมื่อ 7 มกราคม 2558 หลังตีพิมพ์การ์ตูนล้อเลียน นบี มูฮัมหมัด จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย นั้น ในรายงานของ International Business Times ของอังกฤษ เมื่อ 14 มกราคม 2558

ระบุว่ามีแฮกเกอร์นิรนามได้ร่วมมือกันในปฏิบัติการ #OpCharlieHebdo เพื่อชักชวนให้โซเชียลมีเดียช่วยกัน “รีพอร์ต” หรือร้องเรียนบัญชีทวิตเตอร์ รวมกว่า 200 บัญชีว่าเกี่ยวข้องกับนักรบญิฮาด นอกจากนี้ยังเผยแพร่บัญชีของทวิตเตอร์ต้องสงสัยด้วย (อ่านข้อมูลที่เกี่ยวข้อง)

ในรายงานของ Techworm.net ระบุว่า หลังจากนั้นได้มีการตอบโต้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ต่อต้านนิตยสารชาร์ลีเอบโดในนาม #OpFrance โดยกลุ่มซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็น “ญิฮาดไซเบอร์” ได้แก่ ฟาลากาทีม (Fallaga Team) อานอนโกสต์ (AnonGhost) ไซเบอร์คอลิฟะห์ (CyberCaliphate) หรือ กองทัพไซเบอร์สหอิสลาม (the United Islamic Cyber Force) ได้รวมกันทำสงครามไซเบอร์โดยมีเป้าหมายเป็นโลกไซเบอร์ของฝรั่งเศส โดยพวกเขาเรียกปฏิบัติการนี้ว่า #OpFrance

โดย “ญิฮาดไซเบอร์” เหล่านี้ได้โจมตีเว็บไซต์ในฝรั่งเศสกว่า 19,000 แห่ง ทั้งการเปลี่ยนหน้าแรกของเว็บให้เป็นข้อความต่อต้านนิตยสารชาร์ลีเอ็บโด รวมไปถึงทำให้เว็บล่มด้วยการโจมตีด้วยคำสั่ง DdoS โดยบริษัทผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งของฝรั่งเศส Oxalide ถึงกับระบุว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นทำให้ได้รับผลกระทบถึงระบบพื้นฐาน

ในช่วงที่มีปฏิบัติการ #OpFrance แฮกเกอร์กลุ่ม Fallaga Team ยังโจมตีหน้าแรกของเว็บไซต์ "Notepad+++" ซึ่งเป็นฟรีแวร์สำหรับแก้ไขข้อความและซอร์สโค้ด ซึ่งเพิ่งออก “Notepad+++” เวอร์ชั่น 6.7.4 และตั้งชื่อเวอร์ชั่นนี้ว่า "ฉันคือชาร์ลี" (Je suis Charlie) ซึ่งเป็นคำขวัญที่ใช้สนับสนุนนิตยสารชาร์ลีเอบโด (Charlie Hebdo) ภายหลังจากถูกมือปืนบุกถล่มสำนักพิมพ์เมื่อ 7 มกราคม 2558 (อ่านข้อมูลที่เกี่ยวข้อง)

 

สมาชิก Fallaga Team เผยสมาชิกส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น - เคยร่วมกันถล่มระบบออนไลน์อิสราเอล

ในรายงานของสำนักข่าว VICE News เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2556 ได้สัมภาษณ์ผู้ใช้นามว่า "DR. X L" หนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม Fallaga Team ผ่านระบบสไกป์ โดย "DR. X L" ซึ่งในเวลานั้นเป็นเด็กหนุ่มอายุ 19 ปี ซึ่งยังว่างงาน เขาเผยว่าสมาชิกกลุ่ม Fallaga Team มีสมาชิกราว 60 คน มีตั้งแต่อายุ 18 ถึง 32 ปี

เขาระบุว่าเริ่มเรียนรู้วิธีแฮกตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนมัธยมในปี 2550 และต่อมาในปี 2555 ได้เข้าร่วมกลุ่ม Fallaga Team ทำให้เขาได้รู้จักแนวคิดของ "ญิฮาด อิเล็กทรอนิกส์" (Al Jihad Électronique) โดยเขาระบุว่าการเข้าร่วมกลุ่มดังกล่าวเป็นความพยายามที่จะ "หยุดยั้งผู้ใดก็ตามที่ต้องการทำลายอิสลาม"

โดยเป้าหมายของ Fallaga Team คือ "เผยแพร่ข้อความของอิสลามและช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมไม่ว่าที่ใดก็ตาม และเพื่อทำลายอิสราเอล"

โดย "DR. X L" ระบุว่าเมื่อวันที่ 7 เมษายนปี 2556 ได้มีการปฏิบัติการ “Storm Attack 3” มุ่งเป้าหมายทำลายระบบออนไลน์ของอิสราเอล โดยทำการแฮกบัญชีเฟซบุ๊คกว่า 6,000 บัญชี เว็บไซต์จำนวนไม่ถ้วน และปล่อยข้อมูลบัตรเครดิตของผู้ใช้ในอิสราเอล 14,000 บัญชี และทำลายระบบ DNS หรือระบบการตั้งชื่อโดเมนของโมเด็มในอิสราเอลกว่า 10,000 อุปกรณ์

ในการให้สัมภาษณ์กับ VICE News "DR. X L" ระบุว่า ในอนาคตต้องการทำงานด้านความปลอดภัยอินเทอร์เน็ต เขามีไอเดียว่าจะช่วยธนาคารในโลกเพื่อทำให้ระบบมีความปลอดภัย อย่างไรก็ตามไม่มีงานแบบนี้ในตูนิเซียและเขารอโอกาสที่จะได้ทำงาน เขาระบุด้วยว่าต้องการใช้ทักษะของเขาเพื่อปกป้องมนุษยชาติ ในปัจจุบันนี้เขาทำได้เพียงช่วยมุสลิมที่ไม่สามารถปกป้องตัวเอง แต่สักวันหนึ่งเขาจะทำบางอย่างเพื่อช่วยมนุษยชาติ เขาต้องการให้โลกรู้ว่าอิสลามไม่ใช่การก่อการร้าย แต่เป็นสันติภาพ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net