ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนชาวปกาเกอะญอทุ่งป่าคา 20 ราย จำคุก 1-5 ปี ไม่รอลงอาญา

ชาวปกาเกอะญอแม่ฮ่องสอนโดนข้อหามีไม้สักไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำไม้ในเขตป่าสงวนฯ หลังทหารสนธิจนท.ป่าไม้เข้าตรวจค้น จำเลยทั้งหมดได้ถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำแม่สะเรียง ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติที่มาให้กำลังใจที่ศาล

22 เม.ย 2558 ศาลจังหวัดแม่สะเรียงนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5 ในกรณีชาวบ้านปกาเกอะญอจำนวน 20 ราย ที่บ้านทุ่งป่าคา ต.แม่ลาหลวง อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ที่ถูกดำเนินคดีข้อหามีไม้สักที่ยังไม่ได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุกจำเลยตั้งแต่ 1-5 ปี โดยไม่รอลงอาญา

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พ.ค.57 เจ้าหน้าที่ทหารได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นในหมู่บ้านทุ่งป่าคา ที่เป็นหมู่บ้านของชาวปกาเกอะญอ และพบไม้สักอยู่ในการครอบครองของชาวบ้าน จึงได้ดำเนินคดีกับชาวบ้าน 39 ราย ที่เป็นเจ้าของไม้ อย่างไรก็ตามชาวบ้านในพื้นที่ได้ให้เหตุผลว่าไม้ที่พบนั้นเป็นไม้ที่เตรียมสำหรับต่อเติมบ้าน

ก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาจำเลย 39 คนในคดีนี้ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี - 7 ปี โดยไม่รอลงอาญา รวม 23 คน ส่วนจำเลยอีก 14 คน ให้ลงโทษปรับเป็นเงินจำนวน 10,000-20,000 บาท ตามจำนวนไม้ที่ครอบครอง และจำเลย 2 คน ได้เสียชีวิตลงก่อนหน้าศาลจะมีคำพิพากษา โดยที่ชาวบ้านบางส่วนได้รับการช่วยเหลือการประกันตัวจากกองทุนยุติธรรม ของกระทรวงยุติธรรม

ต่อมา จำเลยจำนวน 21 คน ที่ต้องโทษจำคุกได้ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลรอลงอาญาหรือรอการลงโทษ โดยอ้างเหตุทั้งในเรื่องความยากจน ผลกระทบต่อครอบครัวหากต้องโทษจำขัง และวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงที่ใช้ไม้เพื่อต่อเติมหรือสร้างบ้าน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบตัดไม้แต่อย่างใด

และเมื่อวันที่ 19 มี.ค.58 ศาลจังหวัดแม่สะเรียงได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ของจำเลยในกรณีนี้รายหนึ่ง คือนาย อนันต์ ผาแดงสง่า โดยพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คือจำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

ในการอ่านคำพิพากษาวันนี้ ศาลให้เฉพาะจำเลยทีมทนายความ และตัวแทนญาติบางส่วนเข้าฟัง โดยอ้างถึงเหตุที่พื้นที่ห้องพิจารณาไม่เพียงพอ จึงให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องและญาติที่เหลือทั้งหมดรออยู่ภายนอกศาล ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายสิบนายเข้าดูแลในบริเวณศาล โดยที่ศาลได้แยกอ่านคำพิพากษาในสองห้องพิจารณาคดี โดยอ่านเรียงคดีของจำเลยแต่ละคน ซึ่งถูกฟ้องแยกกัน

ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยว่าคำร้องดังกล่าวฟังไม่ขึ้น ไม้ที่ครอบครองและถูกจับกุมมีจำนวนมากเกินกว่าข้ออ้างในการใช้ซ่อมแซมและใช้สอยในหมู่บ้าน ทั้งสามารถใช้สิ่งอื่นที่ไม่ใช่ไม้สักในการทำบ้านได้ ศาลจึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุกจำเลยทั้ง 20 คน โทษตั้งแต่ 1 ปี- 5 ปี ลดหลั่นกันตามจำนวนไม้ที่ครอบครอง โดยไม่รอลงอาญา

จำเลยทั้งหมดได้ถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำแม่สะเรียง ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติที่มาให้กำลังใจที่ศาล 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท